สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “ส.อ.ท.” หรือ “เรา”) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านเป็นผู้สมัครสมาชิกสถาบันรหัสสากล ทั้งนี้ เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าเราจะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เราจึงได้จัดทำแบบแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผย (ซึ่งรวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อเรา
1. วัตถุประสงค์ในการประมวลผล และฐานทางกฎหมาย
เราอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านในการสมัครสมาชิกกับเรา เช่น การดำเนินกระบวนการ รับสมัครสมาชิก การขอรับเลขหมายประจำตัวสินค้าสากล (Global Trade Item Number (GTIN)) และ/หรือ เลขหมายบ่งชี้ที่ตั้งสากล (Global Location Number (GLN)) ดำเนินการทำธุรกรรมต่างๆ เป็นต้น
1.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ ส.อ.ท. หรือบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดทำฐานข้อมูล การจัดทำข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์และแอปพลิเคชันต่างๆ ของสถาบันรหัสสากล และองค์กร GS1 สำนักงานใหญ่ (GS1 AISBL) และการเปิดเผยสถานะการเป็นสมาชิกของสถาบันรหัสสากล ผ่านเว็บไซต์ ระบบฐานข้อมูล และแอปพลิเคชันต่างๆ ของสถาบันรหัสสากล และองค์กร GS1 สำนักงานใหญ่ (GS1 AISBL) เป็นต้น
1.3 เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของ ส.อ.ท. หรือ ปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้ ส.อ.ท.
1.5 เพื่อให้เราสามารถปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
1.6 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ (ถ้ามี)
ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติตาม สัญญา หรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว เราอาจ ไม่สามารถพิจารณาเข้าทำธุรกรรม หรือบริหารจัดการตามสัญญากับท่านได้ (ตามแต่กรณี) นอกจากนี้ ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลของบุคคลอื่นแก่เรา ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงแบบแจ้ง การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้และ/หรือ ดำเนินการขอความยินยอม
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
(1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด เพศ อายุ ภาพถ่าย ลายมือชื่อ เป็นต้น
(2) ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
(3) ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น
(4) ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กร หรือหน่วยงานที่ทำงาน เช่น องค์กรหรือหน่วยงานต้นสังกัด สถานที่ ทำงาน ตำแหน่งงาน เป็นต้น
(5) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการศึกษา การฝึกอบรม ความเชี่ยวชาญ และผลงานต่างๆ เป็นต้น
(6) ประวัติการร่วมกิจกรรม หรือโครงการต่างๆ ของ ส.อ.ท.
(7) ข้อมูลการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคระบาดต่างๆ
(8) ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่จำเป็น เพื่อการตรวจสอบประวัติ การประเมินความเหมาะสม หรือ การพิจารณาความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจเข้าทำธุรกรรม เช่น หลักฐานประกอบการสมัครสมาชิก รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ยกเว้นข้อมูลอ่อนไหว) สำเนาหนังสือเดินทาง (ยกเว้นข้อมูลอ่อนไหว) และทะเบียนบ้าน (ยกเว้นข้อมูลอ่อนไหว) เป็นต้น
3. ระยะเวลาการประมวลผล
ส.อ.ท. จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ใน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้ กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่ยังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตาม วัตถุประสงค์ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของ ส.อ.ท.
4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
เราอาจเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลและ/หรือนิติบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเท่าที่ จำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในแบบแจ้งการประมวลผลนี้ และ เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและการประมวลผลข้อมูลส่วน บุคคลของท่านดังกล่าวจะกระทำเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้เท่านั้น รวมทั้ง จะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะต้องดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
5. การส่งหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ส.อ.ท. มีความจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแตกต่างไปจากประเทศไทย เนื่องจาก ส.อ.ท. มีหน่วยงานภายใน ที่เป็นเครือข่ายของหน่วยงานหรือองค์กรต่างประเทศ หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ กับหน่วยงานหรือองค์ต่างประเทศ ดังนั้น เราจาเป็นที่จะต้องส่งหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับองค์กรหรือหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชนในต่างประเทศ และบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องและจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อประกอบการดำเนินงานตามปกติของเรา รวมถึงอาจมีการเปิดเผยข้อมูลไปต่างประเทศเพื่อประกอบการดำเนินคดีหรืออนุญาโตตุลาการซึ่งอาจมีขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ อาจมีการเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ของผู้ให้บริการที่อยู่ต่างประเทศ และอาจมีการประมวลผลข้อมูลโดยใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นสำเร็จรูปของผู้ให้บริการในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในการส่งข้อมูลดังกล่าวไม่ว่ากรณีใด ๆ ส.อ.ท. จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎระเบียบ ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันหรือจะมีขึ้นต่อไปในอนาคต
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูล
ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่ ส.อ.ท. กำหนด หรือ ผ่านเว็บไซต์ของ ส.อ.ท. ซึ่งสิทธิต่าง ๆ ของท่านมีรายละเอียด ดังนี้
6.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิในการเพิกถอน ความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับ ส.อ.ท. ได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านอยู่กับ ส.อ.ท.
6.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right toaccess) : ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านและขอให้ ส.อ.ท. ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้ ส.อ.ท. เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูล ส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อ ส.อ.ท. ให้แก่ท่านได้
6.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง(right to rectification) : ท่านมีสิทธิในการขอให้ ส.อ.ท. แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
6.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านมีสิทธิขอให้ ส.อ.ท. ลบข้อมูลส่วน บุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบ อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น ส.อ.ท. จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
6.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านมีสิทธิใน การระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
6.6 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้าย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ให้ไว้กับ ส.อ.ท. ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือ ตัวแทนของท่านเองด้วยเหตุ บางประการได้
6.7 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิใน การคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
ดำเนินการตามสิทธิข้างต้น หรือ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเงื่อนไข ข้อยกเว้นการใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ที่ www.gs1th.org ทั้งนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดย ส.อ.ท. จะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของท่านภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ ดังกล่าว
7. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้
เราอาจแก้ไขปรับปรุงแบบแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น เราจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ของ ส.อ.ท. และ/หรือแจ้งให้ท่านทราบผ่านทางอีเมล ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่านเราจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย
8. วิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน การประมวลผลข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ ท่านสามารถติดต่อเราได้ตาม ช่องทางดังต่อไปนี้
สถานที่ติดต่อ: ชั้น 8 อาคารปฏิบัติการเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์เลขที่ 2 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
ช่องทางการติดต่อ: Call Center: 02-345-1000 / 1453
Website: www.fti.or.th
สถานที่ติดต่อ: ชั้น 11 อาคารปฏิบัติการเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ เลขที่ 2 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ (มทรก.) เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
ช่องทางการติดต่อ : 0-2345-1206
Website: www.gs1th.org