ความเป็นมา
ค.ศ. 1973
“บาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1” เป็นที่ยอมรับของร้านสะดวกซื้อชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเปรียบเสมือนการปฏิวัติภาคเศรษฐกิจและสังคมสมัยใหม่
ค.ศ. 1974
26 มิ.ย. มีการจัดตั้งองค์กร Uniform Code Council (UCC) ขึ้น มีหน้าที่ควบคุมดูแลการออกเลขหมายบาร์โค้ด UPC (Universal Product Code) โดยสินค้าชิ้นแรกที่ถูกสแกน ณ จุดชำระเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง คือ “หมากฝรั่ง”
ค.ศ. 1977
มีการจัดตั้งหน่วยงาน European Article Numbering (EAN) Association (ซึ่งในภายหลังมีการควบรวมกับองค์กรอื่น และเปลี่ยนชื่อเป็น GS1) โดยได้เปิดสำนักงาน ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
ค.ศ. 1983
มีการใช้บาร์โค้ดมาตรฐานสากลสำหรับสินค้าค้าส่ง โดยติดลงบนกล่องลูกฟูกด้านนอก
ค.ศ. 1989
เริ่มใช้มาตรฐานสากล EDI (Electronic Data Interchange) ครั้งแรก ซึ่งทำให้ระบบการดำเนินงานในซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมต่างๆ มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างลงตัวมากขึ้น
ค.ศ. 1995
เริ่มใช้บาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องมือที่ใช้ในทางการแพทย์ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เพิ่มความปลอดภัย และขับเคลื่อนการดำเนินงานในระบบซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง สามารถระบุข้อมูลและรายละเอียดของเครื่องมือ และตรวจสอบย้อนกลับได้
ค.ศ. 1999
เริ่มใช้ GS1 DataBar เป็นครั้งแรก โดยบาร์โค้ดประเภทนี้มีขนาดเล็ก และสามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่าบาร์โค้ดปกติ ใช้กับสินค้าเครื่องประดับ ผัก ผลไม้ และอาหารสด
ค.ศ. 2000
GS1 มีสาขาครอบคลุมกว่า 90 ประเทศทั่วโลก
ค.ศ. 2002
มีการจัดตั้งคณะประชุม Global Standards Management Process (GSMP) ขึ้น เพื่อส่งเสริมการใช้งาน ควบคุม และกำกับดูแลเกี่ยวกับการใช้บาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 เพื่ออำนวยความสะดวกให้การดำเนินงานของภาคอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ค.ศ. 2003
มีการจัดตั้ง บริษัท EPC global, Inc. เพื่อพัฒนาระบบรหัส EPC (Electronic Product Code) หรือเลขรหัสสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ใช้ระบุวัตถุ หน่วยบรรจุ สถานที่ รองรับการใช้งานเทคโนโลยี RFID (Radio Frequency Identification) โดยสามารถติดตามและบันทึกข้อมูลของสินค้าหรือสินทรัพย์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
ค.ศ. 2004
เริ่มใช้บาร์โค้ด GS1 DataMatrix ซึ่งเป็นบาร์โค้ด 2 มิติ และเริ่มใช้ฐานข้อมูล GDSN (Global Data Synchronization Network) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลกลางที่ผู้ผลิตสามารถระบุข้อมูลและรายละเอียดของสินค้า โดยผู้บริโภคก็สามารถเข้าถึงข้อมูลนั้นได้เช่นกัน
ค.ศ. 2005
องค์กร GS1 เกิดขึ้นจากการควบรวมของ 2 องค์กร คือ องค์กร Uniform Code Council (UPC: Universal Product Code) ควบคุมดูแลการใช้งานบาร์โค้ดในโซนอเมริกาและแคนาดา และองค์กร European Article Number (EAN: European Article Numbering System) ควบคุมดูแลการใช้งานบาร์โค้ดในโซนยุโรปและเอเชีย ปัจจุบัน GS1 มีสาขากว่า 110 ประเทศทั่วโลก
ค.ศ. 2006
GS1 ออกมาตรฐานสากล traceability ฉบับแรก ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในระบบซัพพลายเชน เป็นมาตรฐานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นมาตรฐานการทำงานร่วมกัน
ค.ศ. 2010
GS1 ได้พัฒนามาตรฐานสากล เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือรายละเอียดของสินค้าได้ผ่านเครื่องมือสื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือ
ค.ศ. 2013
GS1 ได้รับสิทธิ์ในการเป็นผู้แทนแต่เพียงผู้เดียวในการออกเลขหมาย Unique Identifiers (UDIs) ซึ่งเป็นรหัสที่ใช้ระบุข้อมูลและรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (USFDA)
ค.ศ. 2014
GS1 ดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล ผ่านช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึง การให้คำมั่นสัญญาเกี่ยวกับมาตรฐานที่เป็นดิจิทัลฉบับแรก
ค.ศ. 2016
BBC ขนานนามบาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 ว่าเป็น 1 ใน 50 สิ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก
ค.ศ. 2018
GS1 เริ่มให้บริการการออกใบรับรอง Legal Entity Identifiers (LEIs) ซึ่งเป็นรหัสสำหรับระบุบริษัทที่มีส่วนในธุรกรรมการเงิน
ค.ศ. 2019
เกิดแพลตฟอร์ม GRP (GS1 Registry Platform) ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่เจ้าของแบรนด์สามารถแบ่งปันข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตน ซึ่งร้านค้าปลีกและตลาดกลาง สามารถตรวจสอบตัวตนของผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้ มีการระบุ GS1 Company Prefixes (GCPs), GTINs และระบุ GS1 Global Location Numbers (GLNs) ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดย GS1
ค.ศ. 2020
GS1 Digital Link เชื่อมข้อมูลกับ QR Code ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลจากเจ้าของสินค้าได้ เช่น เว็บไซต์ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ โปรโมชัน ส่วนผสม สูตรอาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย
ค.ศ. 2021
GS1 สนับสนุนให้อุตสาหกรรมที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการใช้บาร์โค้ดสองมิติ, QR code และ บาร์โค้ด GS1 Data Matrix ณ จุดขายค้าปลีกทั่วโลกภายในสิ้นปี ค.ศ. 2027
ค.ศ. 2022
องค์การการค้าโลก ร่วมกับ World Economic Forum จัดทำรายงานเกี่ยวกับการใช้บาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 ในการระบุตำแหน่งบนสินค้าชนิดต่างๆ ว่า มีส่วนช่วยให้การค้าระหว่างประเทศเกิดประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
ค.ศ. 2023
ครบรอบ 50 ปีของการใช้บาร์โค้ดทั่วโลก ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 116 แห่ง ผลิตภัณฑ์มากกว่า 1 พันล้านรายการที่มีบาร์โค้ดมารตฐาน GS1